Saturday, September 28, 2013

คุยกับหมอยังไง ให้รู้เรื่อง เข้าใจ ไม่เสียเวลา

เวลาที่ข้าพเจ้าจ่ายยาอยู่ในห้องยา ได้พูดคุยกับผู้มารับยาแล้วพบว่า มีหลายเรื่องที่ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งคุณหมอที่ตรวจ ทำให้บางทีต้องแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ทีหลังทำให้เสียเวลา เสียทรัพยากร และอื่น ๆ 

วันนี้ ข้าพเจ้าได้อ่านเจอเฟสบุ๊คของใกล้มิตรชิดหมอ คุณหมอท่านหนึ่งได้โพสเรื่อง "คุยกับหมอยังไง ให้รู้เรื่องและเข้าใจ ไม่เสียเวลา" เห็นว่ามีประโยชน์ จึงขอคัดลอกมาไว้ที่นี่


***คุยกับหมอยังไง ให้รู้เรื่อง เข้าใจ ไม่เสียเวลา***


อยากจะมาเล่าให้ฟังค่ะ ว่าเวลาคนไข้มาปรึกษา ทั้งในเพจและในชีวิตจริง
พวกหมอๆเค้าต้องการข้อมูลอะไรกันบ้าง
มีคนบอกว่า อาชีพหมอก็คล้ายๆนักสืบ ต้องหาข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
แล้วเอามาประมวลผลหาความเป็นไปได้ต่างๆ
ก่อนจะให้การวินิจฉัยที่เข้าเค้ามากที่สุด จากข้อมูลที่มีอยู่

ดังนั้นการที่คนๆนึงเดินเข้ามาถามว่า
"หมอคะช่วงนี้เพลียง่าย อันตรายมั้ยคะ"
"หมอคะเป็นโรคไต กินอะไรถึงจะดีคะ"
"หมอคะหนูปวดท้อง อยากรู้ว่าเป็นอะไรคะ"
แล้วคาดหวังว่าหมอจะตอบอะไรได้เป็นคุ้งเป็นแควนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ
ถ้าตอบได้แปลว่าต้องเก่งเทพอัจฉริยะมากๆ หรือไม่ก็มั่วสุดๆไปเลย

หมอเองก็เป็นมนุษย์ธรรมดา มีหลากหลาย บางคนอดทน บางคนก็อาจจะขี้หงุดหงิดไปบ้าง ถ้าคนไข้เล่าประวัติวนไปวนมา ก็จะพาให้อารมณ์เสียกันไปเปล่าๆ

สิ่งที่เราต้องการเป็นข้อมูลพื้นฐานเวลาจะคิดวินิจฉัยโรคต่างๆนั้น จะมีประมาณนี้ค่ะ
1. ข้อมูลพื้นฐานของคนไข้
ได้แก่ เพศ อายุ โรคประจำตัวที่เป็นอยู่แล้ว ยาที่กินประจำ (ถ้ามี)
2. อาการหลักที่มีปัญหา ระยะเวลาที่เป็น
3. อาการอื่นๆที่มีร่วมกัน ที่คิดว่าเกี่ยวข้อง
4. การตรวจเพิ่มเติม หรือการรักษาเบื้องต้น ที่ได้ทำไปแล้ว ได้ผลหรือไม่ อย่างไร

ยกตัวอย่างที่ดีๆนะคะ ...
"คุณหมอคะ หนูอายุ 20 ปี ปกติแข็งแรงดี
1 อาทิตย์นี้ปวดท้องมากเลย ปวดตรงกลางเวลาปัสสาวะ บางครั้งก็รู้สึกว่ามีไข้
ไปซื้อยาจากร้านมากินเองได้ 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรจะทำยังไงดีคะ?"
..ถ้ามาแบบนี้ หมอก็จะได้ภาพของคนไข้ที่ชัดเจนขึ้น ถามเพิ่มเติมในจุดที่สงสัยอีกนิดหน่อย
ก็พอจะให้คำแนะนำได้อย่างไม่ต้องคาดเดามากนักค่ะ

อีกอย่างคำว่า"โรค"ตามด้วยชื่ออวัยวะ เช่น การบอกว่าเป็น โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด โรคไทรอยด์ โรคตับ มันเป็นข้อมูลที่กว้างงงงงงมากๆ พูดไปก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรอยู่ดี

เช่นโรคหัวใจ ก็ยังมีรายละเอียดอีกเยอะ เช่น หัวใจขาดเลือด หัวใจอักเสบ ลิ้นหัวใจรั่ว หัวใจวาย
ซึ่งแต่ละอัน การรักษา ยาที่กิน หรือข้อควรปฏิบัติ ก็แตกต่างกันคนละเรื่องเลย
ถ้าไปหาหมอแล้วหมอบอกว่าเป็นโรคแบบนี้ ขอรายละเอียดกันนิดนึงก็ดีค่ะ จะได้เข้าใจโรคที่ตัวเองเป็นมากขึ้น

/หมอบาส